งานประเพณีแห่พระแข่งเรือ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ปี 2547 วันที่ 29 ตุลาคม ถึง 2 พฤศจิกายน 2547
งานประเพณีแห่พระแข่งเรือ อ.หลังสวน ปี 47
ณ สนามแข่งเรือแม่น้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร
มรดกทางวัฒนธรรมแห่งลุ่มน้ำหลังสวน
ถิ่นกำเนิดการแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง
ผู้สันทัดกรณีบางท่านได้ให้ข้อสันนิษฐานว่า การแข่งขันเรือยาวหลังสวน คงจะเกิดขึ้นราวๆ ปี พ.ศ.2387ในสมัยรัชกาลที่3แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะช่วงนั้นเมืองหลังสวนมีวัดเกิดขึ้นหลายวัด การแห่พระหรือการลากพระ ก็คงจะเกิดขึ้นและมีการแข่งขันเรือยาวด้วย
กิจกรรม ปิดเมืองกินฟรี (วันที่ 28 ตุลาคม 2547 เวลาประมาณ 18.00 น. ถึง 21.00 น.)
เป็นกิจกรรมที่สืบทอดมาจากปีที่แล้ว (2546) จุดประสงค์เพื่อรวมน้ำใจชาวอำเภอ หลังสวน ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเป็นการประชาสัมพันธ์เมือง หลังสวน โดยผู้คนในอำเภอ หลังสวน และอำเภอใกล้เคียง ร่วมกันนำอาหาร คาวหวาน มาบริการกันเอง โดยมีคณะกรรมการจัดหาอุปกรณ์ไว้บริการให้ทุกคน "งานนี้กินฟรี...ครับ" บนถนนเส้น หลังสวน ยาวเหยียดระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร
พิธีตักบาตรเวโว และทอดผ้าป่า (วันที่ 29 ตุลาคม 2547 เวลาประมาณ 06.30 น.)
คณะกรรมการจัดงานนิมนต์พระภิกษุสงฆ์จากทุกวัดในอำเภอ หลังสวน รับบิณฑบาตรและรับผ้าป่าโดยมีประชาชน ร่วมกันทำบุญตักบาตรเทโวและทอดผ้าป่า ในเช้ามืดวันที่ 29 ตุลาคม 2547 เวลาประมาณ 06.30 น.
แห่เรือพระบก (วันที่ 29 ตุลาคม 2547 เวลาประมาณ 10.00 น.)
เป็นพระเพณีแห่เรือพระบก วัดในเขตอำเภอ หลังสวน ที่มีความพร้อมร่วมกับพุทธศาสนิกชนในหมู่บ้านร่วมกันประดับประดา ตกแต่ง เรือพระบกด้วยความปราณีต สวยงาม เข้าร่วมแห่อัญเชิญโล่ และถ้วยพระราชทาน เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมทำบุญ เรือพระบกจะประกอบไปด้วย กลองยาว วงโยธวาทิต วงดุริยางค์ เคลื่อนผ่านตลาด หลังสวน เข้าสู่ศาลาเอนกประสงค์ หน้าที่ว่าการอำเภอ หลังสวน เพื่อร่วมทำพิธีเปิดงาน ในวันที่ 29 ตุลาคม 2547 เวลาประมาณ 10.00 น. ขบวนแห่ที่ชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร
พิธีแห่เรือทางชลมารค (วันที่ 29 ตุลาคม 2547 เวลาประมาณ 13.00 น.)
เริ่มพิธี ณ สนามแข่งเรือยาว หน้าศาลาพิธีทางน้ำ ของแม่น้ำ หลังสวน โดยได้รับการสนับสนุนจากกองเรือเล็กแผนกเรือพระราชพิธีกองทัพเรือ ร่วมกับขบวนเรือที่เข้าทำการแข่งขัน
การแข่งขันเรือยาว
1. เรือประเภทชิงโล่พระราชทาน ทำการแข่งขันวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2547 เวลา 09.00 น. ถึง 17.00 น. เรือที่ชนะเลิศจะได้รับโล่พระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
2. เรือประเภทชิงถ้วยพระราชทาน ทำการแข่งขันวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 2 พฤศจิกายน 2547 เวลา 09.00 น.ถึง 17.00 น. หากการแข่งขันไม่เสร็จสิ้น ให้แข่งขันต่อภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2547 เรือที่ชนะเลิศ ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
3. เรือประเภทนักเรียน ทำการแข่งขันวันที่ 29 ตุลาคม 2547 เวลา 13.00 น.ถึง 18.00 น. หากการแข่งขันไม่เสร็จสิ้น ให้แข่งขันในวันที่ 30 ตุลาคม 2547 เรือที่ชนะเลิศ จะได้รับถ้วยประทานของพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา
4. เรือประเภทเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้นำท้องถิ่น ทำการแข่งขันวันที่ 29 ตุลาคม 2547 เวลา 10.00 น. จนจบการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ รอบชิงชนะเลิศทำการแข่งขันในวันที่ 30 ตุลาคม 2547 สลับกับการชิงชนะเลิศของเรือประเภทนักเรียน เรือชนะเลิศได้รับถ้วยประทานของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี
การประกวดเรือสวยงาม
เรือสวยงามที่ส่งเข้าประกวดจะต้องพายทุกวันตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2547 เรือสวยงามที่ชนะเลิศ ได้รับโล่พระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมเงินรางวัลจำนวน 30,000 บาท
การประกวดเรือพระน้ำ
เรือพระน้ำที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีทุกวันตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2547 เรือพระน้ำที่ชนะเลิศการประกวด ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวับ 20,000 บาท
การประกวดกองเชียร์บนฝั่ง
กองเชียร์ที่ส่งเข้าประกวด จะต้องมีการเชียร์ตั้งแต่เรือคู่แรก จนถึงคู่สุดท้ายของแต่ละวัน ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2547 กองเชียร์ที่ชนะเลิศการแข่งขันได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัคราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท
การประกวดเรือประเภทความคิด
เรือที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีทุกวันตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2547 ถึง 2 พฤศจิกายน 2547 เรือที่ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัล 1 ใบ พร้อมเงิน 5,000 บาท
การประกวดเรือตลกขบขัน
เรือที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2547 ถึง 2 พฤศจิกายน 2547 เป็นการสร้างสรรค์และเป็นการอนุรักษ์แม่น้ำ และประเพณี เรือที่ชนะการประกวดได้รับถ้วยรางวัล 1 ใบ พร้อมเงิน 5,000 บาท
การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน
กีฬาพื้นบ้านที่จัดการแข่งขัน มี 3 ประเภทคือ 1. การแข่งขันตะกร้อ 2. การแข่งขันชักคะเย่อ 3. การแข่งขันหมากรุกไทย โดยให้แต่ละตำบลจัดส่งทีมกีฬาทั้ง 3 ประเภทเข้าร่วมทำการแข่งขันโดยใช้สนามหน้าที่ว่าการอำเภอหลังสวน รางวัลชนะเลิศได้รับถ้วยประทานหม่อมเจ้าหญิงสิริวัณวรี มหิดล
กิจกรรมส่งเสริมสินค้าชุมชน และสนับสนุนภูมิปัญญาไทย
จัดจำหน่ายสินค้า โอท๊อป (OTOP) ที่ผ่านการจัดสรร ระดับ 3-5 ดาว จากจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยรวม 6 ประเภท ได้แก่
1. ประเภทอาหาร
2. ประเภทเครื่องดื่ม
3. ประเภทผ้า และเครื่องแต่งกาย
4. ประเภทของใช้และของประดับตกแต่ง
5. ประเภทศิลปะ ประดิษฐ์และของที่ระลึก
6. ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร
โดยจัดเป็น "เมือง โอท๊อป" (OTOP TOWN) ขนาดใหญ่ ที่สำคัญในงานนี้ท่านจะได้พบกับภูมิปัญญา แนวคิด ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าของคนไทย ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นชิ้นงาน